วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561


RECORD  3

MONDAY  29   January 2561

เนื้อหาการเรียน  (KNOWLEDGE)


             วันนี้ก่อนจะเรียนในเนื้อหาต่อไป อาจารย์ได้ทบทวนความรู้เก่าจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เพื่อนๆแต่ละกลุ่มได้นำเสนอในหัวข้อ  พัฒนาการและคุณลักษณะตามวัยของเด็กปฐมวัย  ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย  การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย  นวัตกรรมการสอนแบบโครงการ(Project Approach) อาจารย์ได้ทบทวนอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักศึกษาจำได้ง่ายยิ่งขึ้น 
- วิจัยคือการแก้ปัญหาหรือพัฒนาส่งเสริมให้ดีขึ้น
- พัฒนาการจะเชื่อมโยงมาจากการทำงานของสมองแตกกระจายไปเป็นการเรียนรู้ 
อาจารย์ได้ยกตัวอย่างเรื่อง แมว เพื่ออธิบายระหว่างการรับรู้และการเรียนรู้ให้นักศึกษาได้เข้าใจมากขึ้นว่ามีความต่างกันอย่างไร ตัวอย่างเรื่อง แมว เมื่อเด็กเล่นตุ๊กตาแมวเด็กจะกอดดมหอมตุ๊กตา นี้คือการรับรู้  เมื่อเด็กคนนี้ไปบ้านคุณยายแล้วไปเจอแมวที่บ้านคุณยายเด็กคนนี้จะวิ่งไปเล่นกับแมวในขณะที่เล่นกับแมวแมวข่วน ต่อไปไปบ้านคุณยายอีกแล้วเดินไปเห็นแมวแต่เด็กคนนี้ไม่กล้าเข้าใกล้เข้าไปเล่นเพราะกลัวแมวข่วนอีก คือการเรียนรู้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพื่อให้เกิดการอยู่รอด และการเรียนรู้อีกอย่างคือการถ่ายทอดทางสังคม หลังจากที่อาจารย์ได้ทบทวนความรู้ให้ครบทุกหัวข้อแล้ว อาจารย์ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มกัน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เพื่อช่วยกันระดมสมองคิดหน่วยที่อาจารย์ได้กำหนดไว้ให้
กลุ่มที่ 1 หน่วย ตัวฉัน
กลุ่มที่ 2 หน่วย อาหารที่มีคุณค่า
กลุ่มที่ 3 หน่วย บ้านแสนรัก
กลุ่มที่ 4 หน่วย ใต้ร่มเงาไม้
กลุ่มที่ 5 หน่วย ผลไม้เพื่อสุขภาพ
กลุ่มที่ 6 หน่วย ผีเสื้อ
การอนุรักษ์ คือการตอบอย่างใช้เหตุผล ไม่ใช้ตอบอย่างที่ตาเห็น (การคิดเชิงนามธรรม) ถ้าตอบอย่างใช้ตาเห็นแสดงว่าเด็กยังอยู่ใในรูปธรรม แสดงว่าเด็กยังใช้เหตุผลได้ไม่มาก 

Mind Mapping เรื่องหน่วยต่างๆของแต่ละกลุ่ม

หน่วย ใต้ร่มเงาไม้ (กลุ่มของดิฉัน)




หน่วย ใต้ร่มเงาไม้

ชนิดของต้นไม้
- ต้นโพธิ์
- ต้นมะม่วง
- ต้นหูกระจง
- ต้นมะขาม
- ต้นไทร
- ต้นลีลาวดี
- ต้นตีนเป็ด

ลักษณะของต้นไม้

สีของต้น
- สีน้ำตาล
- สีดำ

สีของใบ
- สีเขียวเข้ม
- สีเขียวอ่อน
- สีเหลือง
- สีแดง

ขนาด
- เล็ก
- กลาง
- ใหญ่

พื้นผิว
- ผิวเรียบ
- ผิวขรุขระ
- ผิวหยาบ

การดูแลรักษา
- รดน้ำ
- พรวนดิน
- ใส่ปุ่ย
- ตัดกิ่ง ตอนกิ่ง

ประโยชน์ของต้นไม้
- ให้ร่มเงา
- ทำให้เย็นสบาย
- เป็นยารักษาโรค
- ชนิดมีผลสามารถรับประทานได้
- เอาไปเป็นแปรรูปได้
- ถ้าไม่มีต้นไม้อาจจะทำให้โลกร้อน และเกิดน้ำท่วม

ข้อควรระวัง
- ถ้าไปนั่งหรือไปยื่นใกล้ต้นไม้ที่ไม่แข็งแรง สามารถทำให้ต้นไม้ล้มทับได้
- ต้นไม้บางชนิดอาจมียางที่อันตราย
- ระวังกิ้งไม้หักหล่นใส่
- เป็นที่อยู้ของสัตว์และแมลงมีพิษ
  
หน่วย ผลไม้เพื่อสุขภาพ



หน่วย ผลไม้เพื่อสุขภาพ

ชนิด
- ฝรั่ง
- ส้มโอ
- แตงโม
- มะพร้าว
- กล้วย
- มะม่วง
- องุ่น

ลักษณะ

รูปทรง
- กลม
- รี

สี
- เขียว
- แดง
- ส้ม
- เหลือง
- ม่วง

ขนาด
- ใหญ่
- กลาง
- เล็ก

กลิ่น
- หอม
- เหม็น
- ฉุน

พื้นผิว
- เรียบ
- หยาบ
- ขรุขระ

ส่วนประกอบ
- เมล็ด
- เนื้อ
- เปลือก

รสชาติ
- หวาน
- เปรี้ยว
- ฝาด

การดูแลรักษา
- จัดเก็บในที่ เหมาะสม
- ป้องกันแมลงวางไข่
- เก็บให้ห่างจากมือเด็ก

ประโชชน์
- มีคุณค่าต่อร่างกาย
- สร้างรายได้
- นำไปแปรรูป
- ใช้เพื่อการศึกษา

ข้อควรระวัง
- การรับประทานถ้าหากทานมากเกินไปอาจทำให้ท้องผุ
- การปอกเปลือกต้องระวังมีดบาดมือ
- การเก็บรักษาต้องควรเก็บในที่เย็นหรือไม่ร้อนเกินไป
- การทิ้งควรทิ้งให้เป็นที่เพราะอาจสงกลิ่นเน่าเหม็น


หน่วย ผีเสื้อ (ฺButterfly)



หน่วย ผีเสื้อ (ฺButterfly)

ชนิดของผีเสื้อ

ผีเสื้อกลางวัน
- ไผ่ลายธรรมดา
- หนอนใบรัก

ผีเสื้อกลางคืน
- หนอนบุ้งเล็ก
- มวลหวาน
- Sub Topic

ลักษณะของผีเสื้อ

สี
- ดำ
- เหลือง
- น้ำตาล

รูปร่าง
- ยาว
- อ้วน

รูปทรง
- สีเหลี่ยมคางหมู

ส่วนประกอบ
- มีตา 2 ข้าง
- มีปากแหลม
- มีหนวด 2 เส้น
- มีขา 6 ขา
- มีปีก 4 ปีก

การดำรงชีวิต

ที่อยู่ของผีเสื้อ
- ทุ่งโล่ง
- ชายป่า
- ริมลำธาร

อาหารของผีเสื้อ
- น้ำหวาน
- เกลือแร่
- แร่ธาตุ

วัฏจักร
ประโยชน์และโทษของผีเสื้อ

ประโยชน์
- ผสมเกศรดอกไม้
- ใช้เป็นตัววัดความอุดมสมบูรณ์ของป่า

โทษ
- กัดกินใบไม้
- เจาะลำต้นและกิ่งก้าน

หน่วย ตัวฉัน



 หน่วย ตัวฉัน

ลักษณะและส่วนประกอบ

ใบหน้า
- ผม
- คิ้ว
- ตา
- จมูก
- หุ
- ปาก

ลำตัว 
- ผิวหนัง
- ข้อศอก
- แขน
- ท้อง
- มือ
- เข่า
- ขา
- เท้า
- นิ้วมือ นิ้วเท้า

ความแตกต่างระหว่างบุคคล

ผู้ชาย
- ผมสั้น
- อวัยวัเพศ

ผู้หญิง
- ผมยาว
- อวัยวะเพศ

การรักษาความสะอาด
- เสื้อผ้า
- ร่างกาย
- เครื่องใช้

การปฏิบัติตนให้มีพลานามัย

การดูแลสุขภาพ
- การออกกำลังกาย
- การรับประทานอาหาร

ข้อควรระวัง
- ปฏิบัติตามข้อตกลง
- การเจ็บป่วย
- การรับประทานอาหาร
- อุบัติเหตุ

 หน่วย บ้านแสนรัก



 หน่วย บ้านแสนรัก

ประเภท
- บ้านบนบก
- บ้านในน้ำ

ลักษณะ
- บ้านไม้
- บ้านปูน
- บ้านอิฐ
- บ้านดิน
- บ้านจากใบจาก

ส่วนประกอบ
- หลังคา
- หน้าต่าง
- ประตู
- ผนัง

สมาชิกในบ้าน
- พ่อ แม่
- ปู่ ย่า
- ตายาย
- ลุง ป้า
- น้าอา
- พี่ น้อง

การปฏิบัติตนต่อคนในบ้าน
- เคารพเชื่อฟังพ่อแม่
- มีกิริยา มารยาทที่สุภาพ
- ช่วยทำงานบ้าน
-อไม่เกเรหรือทำอันตรายผู้อื่น

หน้าที่ของคนในบ้าน
- พ่อ เลี้ยงดุคนในบ้าน อบรมสั่งสอนลูก
- แม่ ทำงานบ้าน อบรมสั่งสอนลูก
- ลูก ตั้งใจเรียนหนังสือ ทำงานช่วยเหลือตนเอง


หน่วย อาหารดีมีคุณค่า


                                   
หน่วย อาหารดีมีคุณค่า

ประเภทของอาหาร
- อาหารหลัก
- อาหารคาว
- อาหารหวาน
- อาหารว่าง

การเลือกรับประทานอาหาร
- ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป
- ไม่รสจัด
- ไม่ใช่ของหมักดอง
- ที่ทำสุกใหม่

มารยาทในการรับประทานอาหาร
- ไม่รับประทานอาหารเสียงดัง
- ไม่รับประทานมูมมาน
- ไม่พุดขณะเคี้ยวอาหาร
- ไม่หยอกล้อกันในขณะรับประทานอาหาร

ประโยชน์
- ทำให้ร่างกายแข็งแรง
- บำรุงสมอง
- เสริมสร้างการเจริญเติบโต

อาหารที่มีประโยชน์
- มีสารอาหารครบ 5 หมุ่
- ปลอดสารพิษ
- สะอาด
- สดใหม่

ความรู้ที่ได้ (Knowledge)

- การคิดการฝึกวิเคราะห์
- การคิดแบบมีความคิดสร้างสรรค์
- การสื่อสาร
- การฟังอย่างมีเหตุผล

ทักษะ (Saill)

- ทักษะการฟังและการคิด
- ทักษะการนำเสนองาน
- ทักษะการสื่อสารและเทคโนโลยี
-ทักษะการเชื่อมโยง

การนำเอาไปประยุกต์ใช้ (Adoption)

    สามารถนำเนื้อหาที่เรียนรู้นำไปจัดกิจกรรมให้เด็กได้อย่างเหมาะสมตามพัฒนาการตามวัย และสามารถนำความรู้แต่ละหัวข้อของหน่วยต่างๆที่เพื่อนได้เอามาทำเป็น  Mind Mapping  สามารนำมาเขียนแผนของแต่ละหน่วยได้และสามารถนำไปต่อยอดเพื่อเอาไปสอนเด็กได้จริงในอนาคต

เทคนิคการสอน (Technique Teathing)

- มีการอธิบายเนื้อหารายวิชานี้ให้นักศึกษาฟังได้อย่างเหมาะสมและเข้าใจง่าย
- มีการอธิบายเพิ่มเติมหลังจากนักศึกษานำเสนองานเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นและชัดเจนขึ้น
- มีการทบทวนเนื้อหาการเรียนในรายวิชาต่างๆที่เคยเรียนมาเพื่อเอามาต่อยอดในรายวิชานี้

ประเมินตนเอง

       แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา ตั้งใจทำกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่  ตั้งใจฟังขณะที่อาจารย์สอน ไม่พูดคุยกับเพื่อนเสียงดัง

ประเมินเพื่อน

        เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียน และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่ ไม่พูดคุยเสียงดังขณะเรียนหนังสือ

ประเมินอาจารย์


       อาจารย์มาตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีกิจกรรมแปลกใหม่มาสอนนักศึกษาเสมอ และเปิดโอกาสให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง





วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561



RECORD  2

MONDAY  22   January 2561

เนื้อหาการเรียน  (KNOWLEDGE)

               วันนี้เป็นการเรียนการสอนสัปดาห์ที่ 2 ของรายวิชา การจัดประสบการณ์การเรียนรู้เด็กปฐมวัย วันนี้บรรยากาศภายในห้องเรียนครึ้กครื้นมาก ก่อนเข้าสู้เนื้อหาการเรียนอาจาย์ก็ได้พูดคุยกับนักศึกษาก่อนเพราะไม่อยากให้เสียเวลาในขณะที่รอเพื่อนๆมาครบ หลังจากที่เพื่อนๆมาครบกันหมดแล้ว อาจารย์ก็เริ่มให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนองานที่อาจารย์มอบหมายงานให้ไปค้นคว้าข้อมูเมื่ออาทิตย์ที่แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนให้เพื่อนได้ฟังกัน


นำเสนองานของแต่ล่ะกลุ่ม

กลุ่มที่ 1 พัฒนาการและคุณลักษณะตามวัยของเด็กปฐมวัย








กลุ่มที่ 2 ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย


ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย

ความต้องการ ความสนใจและการเล่นของเด็กปฐมวัย
เด็กปฐมวัยเป็นวัยเริ่มต้นของชีวิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความเป็นมนุษย์การสร้างรากฐาน
ที่ดีทั้งทางร่างกาย และจิตใจให้กับเด็กในวันนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะช่วงอายุแรกเกิด ถึง6 ปี
เป็นระยะที่มีความสำคัญช่วงหนึ่งในการวางรากฐานคุณภาพชีวิตของเด็กด้วยเหตุที่เด็กปฐมวัยมี
ธรรมชาติและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากบุคคลวัยอื่นๆ

ความต้องการ

ความต้องการเป็นสิ่งจาเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ความต้องการเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดความสมดุล ซึ่ง

เป็นสาเหตุสำคัญที่ทาให้ร่างกายเกิดความเครียด ไม่เป็นสุข ดังนั้นร่างกายจึงต้องมีการกระทาเกิดขึ้น

เพื่อให้ร่างกายกลับสู่สภาวะสมดุลตามปกติ

ชนิดของความต้องการ
1.ความต้องการของแต่ละคน (Individual Needs )
   1.1 ความต้องการทางอินทรีย์
   1.2 ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ

1.2 ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
1.ความต้องการที่จะรักคนอื่นและให้คนอื่นรักตน
2.ความต้องการความปลอดภัย
3.ความต้องการการมีส่วนร่วม หรือเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
4. ความต้องการความสัมฤทธิ์ผลหรือต้องการให้บรรลุจุดมุ่งหมายของตน

5. ความต้องการรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาสติปัญญา

6. ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงจากสภาพที่อยู่ปกติให้เป็นสภาพใหม่

7. ความต้องการที่จะรับความพึงพอใจในทางสวยงาม


ความต้องการทางสังคม (Social Need)
ได้แก่ ความต้องการความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ การนับหน้าถือตา ความนิยมชมชื่น ความเป็นมิตรภาพ
ต่อกัน และความต้องการในสมบูรณาการ (Integration) ซึ่งเป็นความต้องการ  ที่เป็นความสุขของชีวิต
ตามอุดมคติ

ความต้องการของเด็กปฐมวัย

          ความต้องการพื้นฐานทางกาย เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่

          ความต้องการความอิสระ ควบคู่ไปกับความต้องการพื้นฐานทางกาย

          ความต้องการผลสัมฤทธิ์ มักจะต้องการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น

          ความต้องการประสบการณ์ที่ท้าทาย

          ความต้องการมีเพื่อน เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น

ความสนใจ

ความสนใจ หมายถึง ความรู้สึกหรือเจตคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ ความรู้สึกนั้นทาให้บุคคลเอาใจใส่และกระทำการจนบรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่บุคคลมีต่อสิ่งนั้น

1.เกิดจากความต้องการ

2.เกิดจากการเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น

3.เกิดจากแรงจูงใจของสิ่งเร้า

4.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่มีความหมาย

5.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ มีความสัมพันธ์กับชีวิตจริงของเด็ก

6.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่เด็กถนัดและมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว

ความสนใจของเด็กปฐมวัย
 สิ่งที่เด็กปฐมวัยสนใจนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเด็กนั่นเอง ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเด็ก
ปฐมวัยยังมีลักษณะของการยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ ช่วงเวลาของความสนใจของเด็ก
ปฐมวัย  จะค่อนข้างสั้น โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 2 – 3 นาที จึงเห็นได้ว่าเด็กในวัยนี้ชอบที่จะเปลี่ยน
กิจกรรมอยู่ตลอดเวลา

1.ความสนใจร่วม เนื่องจากเด็กที่มีอายุระดับใกล้เคียงกัน

2.ความสนใจในสิ่งใหม่ ๆ ควรเปิดโอกาสให้เด็กพบกับสิ่งใหม่ ๆ

3.เป็นสิ่งที่ดี ในขณะเดียวกัน ควรเพิ่มกิจกรรมไปจากความสนใจ

4.ความสนใจชั่วครู่ และความสนใจที่แตกต่างออกไป

เด็กปฐมวัยมีความสนใจในสิ่งต่าง ๆ

         1.สนใจการเล่นและมักจะเล่นคนเดียวมากกว่าจะเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่ม

          2.สนใจรูปภาพในหนังสือ ภาพที่เด็กสนใจจะต้องมีสีสดใส ชัดเจน

          3.สนใจฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์

          4.สนใจฟังเพลงที่มีจังหวะง่าย ๆ คำร้องสั้น ๆ

          5.สนใจสิ่งรอบตัว ชอบซัก ชอบถาม



กลุ่มที่ 3 การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย



 การเรียนรู้คืออะไร?
         การเรียนรู้ หมายถึง การเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม หรือจากการฝึกหัด รวมทั้งการเปลี่ยนปริมาณความรู้ของผู้เรียน   มีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ 1) มนุษย์ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจาก “ไม่รู้” เป็น “รู้”  “ทำไม่ได้” เป็น “ทำได้” “ไม่เคยทำ” เป็น “ทำ” 2) การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนั้นต้องเป็นไปอย่างถาวร 3) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้น เกิดจากประสบการณ์การฝึกฝนและการฝึกหัด ไม่ใช่จากเหตุอื่นๆนอกจากนั้น

เด็กปฐมวัยคืออะไร?
เด็กปฐมวัย (Early Childhood) เป็นคำที่ใช้เรียกเด็กที่มีอายุตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 6 ปี ซึ่งอยู่ในวัยที่คุณภาพของชีวิทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญากำลังเริ่มต้นพัฒนาอย่างเต็มที่

ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์
        เพียเจท์ กล่าวถึง การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากการทำงานของโครงสร้างทางปัญญา เป็นวิธีที่เด็กจะเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับสิ่งแวดล้อม เพียเจท์ได้มองการเล่นเป็นกระบวนการพัฒนาทางสติปัญญา ซึ่งกระบวนการพัฒนาทางสติปัญญา และลักษณะของการเล่นนั้น จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  เพียเจท์ได้แบ่งพัฒนาการทางสติปัญญาออกเป็น  4  ขั้น
1.  ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว
2. ขั้นความคิดก่อนปฏิบัติการ
3. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรม
4. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบนามธรรม

ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของไวกอสกี้
          กล่าวว่า เด็กจะเกิดการเรียนรู้  พัฒนาสติปัญญาและทัศนคติเมื่อมีการปฏิสัมพันธ์และทำงานร่วมกับผู้อื่น  หากเด็กต้องเผชิญกับปัญหาที่ท้าทายแต่ไม่สามารถคิดแก้ปัญหาโดยลำพัง  แต่ถ้าได้รับการช่วยเหลือแนะนำจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนที่มีประสบการณ์มาก่อน  เด็กจะสามารถแก้ปัญหานั้นและจะเกิดการเรียนรู้ได้

ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรูเนอร์
         เชื่อว่า ครูสามารถจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัยเพื่อให้เด็กเกิดความพร้อมที่จะเรียนได้ โดยต้องคำนึงถึงทฤษฎีพัฒนาการว่าเป็นตัวเชื่อมระหว่างความรู้และการสอน กล่าวคือพัฒนาการจะเป็นตัวกำหนดเนื้อหาความรู้และวิธีการสอน   หรือกิจกรรมการเรียนการสอนต้องสอดคล้องกับพัฒนาการและความสามารถของเด็กเป็นหลัก จึงได้แบ่งขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กปฐมวัยออกเป็น 3 ขั้นตอน
1.  ขั้นการเรียนรู้ด้วยการกระทำ
2.  ขั้นการเรียนรู้ด้วยภาพและจินตนาการ
3.  ขั้นการเรียนรู้ด้วยสัญลักษณ์



สรุป
                 เด็กจะเกิดการเรียนรู้ในช่วง 0-5 ปีอย่างง่ายโดยไม่รู้ตัว และเรียนรู้ด้วยความเพลิดเพลิน สนุกสนาน การส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุด ทั้งนี้จะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้แบบค้นหา และการมีปฏิสัมพันธ์ การใช้สื่อและการปรับบทบาทของครูและเด็ก ตามหลักทฤษฎีของกลุ่มแนวคิดสร้างองค์ความรู้ การเรียนรู้หมายถึงการที่เด็กสามารถปรับความคิด เพื่อใช้ในชีวิตจริง การเรียนรู้จึงมิใช่การสะสมความรู้จากแหล่งภายนอกเพียงเท่านั้น ครูจําเป็นต้องให้ความสําคัญกับสิ่งที่เด็กจะต้องนํา ไปใช้ในชีวิตไปในขณะเดียวกันด้วย



 กลุ่มที่ 4 นวัตกรรมการสอนแบบโครงการ (Project Approach)



การสอนแบบโครงการ

           การจักการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่ง ซึ่งให้ความสำคัญกับเด็ก ส่งเสริมให้เด็กแสวงหาคำตอบจากการเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึก เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยที่เด็กหรือครูร่วมกันกำหนดเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ แล้วดำเนินการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและจากแหล่งเรียนรู้









ความรู้ที่ได้ (Knowledge)

- การคิดการฝึกวิเคราะห์
- การคิดแบบมีความคิดสร้างสรรค์
- การสื่อสาร
- การฟังอย่างมีเหตุผล

ทักษะ (Saill)

- ทักษะการฟังและการคิด
- ทักษะการนำเสนองาน
- ทักษะการสื่อสารและเทคโนโลยี
-ทักษะการเชื่อมโยง

การนำเอาไปประยุกต์ใช้ (Adoption)

    สามารถนำเนื้อหาที่เรียนรู้นำไปจัดกิจกรรมให้เด็กได้อย่างเหมาะสมตามพัฒนาการตามวัย และสามารถนำความรู้แต่ละหัวข้อที่เพื่อนนำเสนอ นำไปต่อยอดเพื่อเอาไปสอนเด็กได้จริงในอนาคต

เทคนิคการสอน (Technique Teathing)

- มีการอธิบายเนื้อหารายวิชานี้ให้นักศึกษาฟังได้อย่างเหมาะสมและเข้าใจง่าย
- มีการอธิบายเพิ่มเติมหลังจากนักศึกษานำเสนองานเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นและชัดเจนขึ้น
- มีการทบทวนเนื้อหาการเรียนในรายวิชาต่างๆที่เคยเรียนมาเพื่อเอามาต่อยอดในรายวิชานี้

ประเมินตนเอง

       แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา ตั้งใจทำกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่  ตั้งใจฟังขณะที่อาจารย์สอน ไม่พูดคุยกับเพื่อนเสียงดัง

ประเมินเพื่อน


        เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียน และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่ ไม่พูดคุยเสียงดังขณะเรียนหนังสือ

ประเมินอาจารย์


       อาจารย์มาตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีกิจกรรมแปลกใหม่มาสอนนักศึกษาเสมอ และเปิดโอกาสให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง